พายุไต้ฝุ่นเกย์ (
อังกฤษ: Typhoon Gay) หรือ
พายุไซโคลนกาวาลี พ.ศ. 2532 (
อังกฤษ: Kavali Cyclone of 1989)
[1] เป็น
พายุหมุนเขตร้อนขนาดเล็กแต่ทรงพลังที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 800 คนใน
อ่าวไทยและบริเวณโดยรอบในเดือนพฤศจิกายน 2532 เป็นพายุไต้ฝุ่นครั้งเลวร้ายที่สุดที่พัดถล่ม
คาบสมุทรมลายูรอบ 35 ปี พายุเกย์ก่อตัวขึ้นจากร่องมรสุมที่ปกคลุมอยู่เหนืออ่าวไทยในต้นเดือนพฤศจิกายน สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมทำให้พายุ
ทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีความเร็วลมมากกว่า 120 กม./ชม. ในวันที่ 3 พฤศจิกายน
[nb 1] หลังจากนั้น พายุไต้ฝุ่นเกย์กลายเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกแรกนับตั้งแต่ปี 2434 ที่
พัดขึ้นฝั่งในประเทศไทย โดยพัดขึ้นฝั่งที่
จังหวัดชุมพรด้วยความเร็วลม 185 กม./ชม. จากนั้น พายุเคลื่อนตัวลงสู่
อ่าวเบงกอล แล้วมีการจัดระเบียบอีกครั้งหนึ่งในหลายวันต่อมาขณะเคลื่อนเข้าใกล้ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของ
ประเทศอินเดีย วันที่ 8 พฤศจิกายน พายุเกย์บรรลุความรุนแรงสูงสุดเป็น
พายุหมุนเขตร้อนระดับ 5 ด้วยความเร็วลม 260 กม./ชม. จากนั้นพายุพัดขึ้นฝั่งเป็นครั้งที่สองใกล้กับเมือง
กาวาลี รัฐอานธรประเทศ พายุอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่ออยู่เหนือแผ่นดิน และสลายตัวไปเหนือ
รัฐมหาราษฏระในเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายนการก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของพายุไต้ฝุ่นทำให้เรือหลายร้อยลำในอ่าวไทยไม่ทันตั้งตัว จนมีผู้เสียชีวิตนอกชายฝั่ง 275 คน โดยในจำนวนดังกล่าว 91 คนเสียชีวิตในเรือขุดเจาะน้ำมัน
ซีเครสต์ของสหรัฐพลิกคว่ำจากคลื่นใต้น้ำ (swell) สูง 6–11 เมตร มีประชาชน 588 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพายุทั่วทั้งคาบสมุทรมลายู เมืองหลายเมืองในจังหวัดชุมพรถูกทำลาย รวมมูลค่าความเสียหายในประเทศไทยเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท (497 ล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ)
[nb 2] ต่อมาพายุพัดถล่มประเทศอินเดียขณะเป็นพายุไซโคลนกำลังแรง และทำให้บ้านเรือนใน
รัฐอานธรประเทศประมาณ 20,000 หลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย ประชาชนหนึ่งแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย มีผู้เสียชีวิตในประเทศอินเดีย 69 คน และคิดมูลค่าความเสียหาย 410 ล้าน
รูปีอินเดีย (25.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)